top of page

Composers

Frederic  Francois  Chopin

     Frederic Francois Chopin หรือ “เฟรเดลิก ฟร็องซัว โชแปง” เป็นคีตกวีชาวโปแลนด์ เกิดเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 1810 และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ค.ศ. 1849 จากวัณโรคที่ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ   ชื่อแรกของเขาที่พ่อกับแม่ตั้งให้คือ “Fryderyk Franciszek Chopin” แต่ต่อมาได้หันมาใช้ชื่อภาษาฝรั่งเศษเมื่อเขาได้ตัดสินใจจากประเทศบ้านเกิดเป็นการถาวรเพื่อมุ่งหน้าสู่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

     โชแปงเกิดที่เมือง Zelazowa Wola ที่ตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศโปแลนด์  เขาเริ่มเรียนดนตรีมาตั้งแต่หกขวบและเริ่มประพันธ์เพลงแรกเมื่อตอนอายุเจ็ดขวบ และเริ่มแสดงครั้งแรกเมื่อตอนอายุแปดขวบ โดยครูสอนดนตรีคนแรกของเขานั่นก็คือ “Wojciech Zywny” และหลังจากปี ค.ศ. 1826 เขาได้รับการศึกษาที่โรงเรียนดนตรีแห่งกรุงวอร์ซอ ซึ่งเขาได้รับการถ่ายทอดวิชา ดนตรีจาก “Jozef Elster” เป็นหลัก

     ในปี ค.ศ. 1830 เขาได้ลาจากโปแลนด์ประเทศบ้านเกิดของเขาเพื่อมาประกอบอาชีพนักดนตรีที่ประเทศฝรั่งเศษ ซึ่งเขาได้ใช้ช่วงชีวิตที่เหลืออยู่ที่กรุงปารีสหรือไม่ก็บริเวณใกล้เคียงและได้ตกหลุมรักสาวคนหนึ่ง  โดยเขาได้นำความรักครั้งนี้มาเป็นแรงบันดาลใจในการประพันธ์เพลง Ballade No.1 Op. 23  ที่แสนไพเราะ รวมถึงท่อนที่สองของ Concerto No.1 ระหว่างปี ค.ศ. 1847 เขาเป็นชู้รักของ “George Sand” นักประพันธ์นวนิยายชาวฝรั่งเศษ แต่ในที่สุดก็ได้แยกทางกันด้วยความเต็มใจของทั้งสองฝ่าย เมื่ออาการป่วยของโชแปงทรุดหนัก  เรื่องราวความรักของคู่รักที่ผู้คนจดจำได้ดีที่สุด ได้แก่เหตุการณ์ในเกาะมาจอร์กาประเทศสเปน ในช่วงที่เขาใช้ชีวิตอย่างอนาถาในบ้านชาวนาโดยปราศจากเครื่องทำความร้อนในฤดูหนาว  บทเพลงเขาได้ประพันธ์ระหว่างช่วงเวลาอันน่าสังเวชนี้ได้แก่ Prelude Op. 28 ที่พรรณนาถึงความสิ้นหวังของทั้งคู่ ช่วงเวลานี้ได้มีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อสุขภาพของโชแปงที่ป่วยจากวัณโรคเรื้อรังทำให้เขาและ George Sand ตัดสินใจเดินทางกลับกรุงปารีสเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ แต่อาการป่วยก็ยังคงอยู่จนกระทั่งได้จบชีวิตอย่างน่าสลดด้วยวัยเพียง 39 ปี

     โชแปงสนิทกับฟรานซ์ลิซท์,วินเชนโซ เบลลินี, เออแฌน เดอลาครัว, แอ็กเตอร์ แบร์ลีโยซ และโรเบิร์ต ชูมานท์  โชแปงได้มอบเพลงบางบทเพื่ออุทิศให้เพื่อนรักนักประพันธ์ทั้งสอง แต่เขาก็ไม่ได้ประทับใจบทเพลงที่แต่งขึ้นสักเท่าไหร่ เขาได้ขอร้องให้ร้องเพลงสวด Requiem ของโมสาร์ทในงานศพของเขา แต่เมื่อเขาเสียชีวิตลงในปี ค.ศ. 1849  พิธีศพจัดขึ้นที่โบสถ์ลามาดแลนด์ไม่ได้ราบรื่นซะทีเดียว เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่มีการขออนุญาตใช้วงประสานเสียงสตรีในการร้องเพลงสวด ข่าวอื้อฉาวเรื่องความรักของเขาก็ได้แพร่หลายออกไปทำให้ต้องเลื่อนพิธีสวดออกไปอีกสองสัปดาห์แต่ในที่สุดโบสถ์ก็ยอมรับคำขอร้องดังกล่าว

     ผลงานทุกชิ้นของโชแปงเป็นงานชิ้นเอก ส่วนใหญ่ใช้สำหรับงานเดี่ยวเปียโน งานประเภทเรียบเรียงเสียงประสานมีเพียง Concerto สองบท, Polonaise หนึ่งบท, Rondo หนึ่งบท, และ Variation อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งทั้งหมดบรรเลงด้วยเปียโนและวงออร์เคสตรา เพลงแชมเบอร์มิวสิคเพียงห้าชิ้น สี่ชิ้นแรกแต่งตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ชิ้นสุดท้ายเป็นโซนาตาสำหรับเชลโลและเปียโน ซึ่งเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายที่เขานำออกแสดงต่อสาธารณชนร่วมกับ “Auguste Franchomme” เพื่อนของเขาผู้เป็นนักเชลโลเลื่องชื่อ มิตรภาพได้ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นความละเมียดละไมของเชลโล เนื่องจากแชมเบอร์มิวสิคของโชแปงใช้เชลโลบรรเลงถึงสี่ในห้าชิ้นด้วยกัน

Your dream are alway beautiful.

bottom of page